สำหรับคนที่เริ่มต้นทำประกันชีวิต เพื่อให้ได้แบบประกันที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด โดยดูจากความคุ้มครองและผลประโยชน์ที่คุณต้องการ

• คุ้มครองกรณีเสียชีวิต
• คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีไม่นอนโรงพยาบาล (ผู้ป่วยนอก)
• คุ้มครองค่าห้อง ค่ารักษาพยาบาลกรณีนอนโรงพยาบาล (ผู้ป่วยใน)
• คุ้มครองอุบัติเหตุ
• คุ้มครองโรคร้ายแรง

และต้องการได้รับเงินคืนระหว่างทาง สะดวกจ่ายเบี้ยระยะสั้นหรือระยะยาว และมีงบอยู่ที่เท่าไหร่ เพื่อนำเสนอแบบประกันที่เหมาะสม

หากอยากหาแบบประกันที่เหมาะกับคุณสามารถติดต่อปรึกษาฟรีกับตัวแทนเมืองไทยประกันชีวิต

ประกันชีวิตสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 300,000 บาท ต่อปี
– เบี้ยประกันชีวิตที่มีความคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป สามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาทต่อปี (รวมกับเบี้ยประกันสุขภาพได้ไม่เกิน 25,000 บาท)
– เบี้ยประกันชีวิตเพื่อบำนาญ สามารถใช้ลดหย่อนได้สูงสุด 200,000 บาท

1.อย่างแรกที่ต้องคำนึงถึงคือควรเลือกแบบประกันชีวิตที่สอดคล้องกับความต้องการของเรา หรือหากใครที่ยังไม่มั่นใจว่าจะต้องทำอย่างไรหรือต้องเลือกแบบประกันชีวิตแบบไหนดี สามารถปรึกษากับตัวแทนประกันชีวิตของบริษัทได้ และหากคุณมีภาระหน้าที่ทางการเงินหรือค่าใช้จ่ายที่รับผิดชอบอยู่ ดังนั้นการเลือกจ่ายเบี้ยด้วยกำลังเงินที่ไม่กระทบกับชีวิตประจำวันมากเกินไปนักจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
2.ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ หรือประกันอื่น ๆ แต่ละแบบจะมีเงื่อนไขที่ต่างกัน ดังนั้นควรศึกษาและทำความเข้าใจเงื่อนไขกรมธรรม์ให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจซื้อ

ช่องทางการชำระเบี้ยประกันชีวิต สามารถเลือกชำระได้หลากหลายแบบ หลากหลายช่องทางตามที่ลูกค้าสะดวก โดยสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก

สำหรับค่าเบี้ยประกันที่ต้องชำระจะขึ้นอยู่กับแผนความคุ้มครองนั้น ๆ ของแต่ละบุคคลที่เลือกทำ หากใครที่กำลังตัดสินใจซื้อแนะนำว่าไม่ควรจ่ายเบี้ยประกันเกิน 10-15% ของเงินเดือนทั้งปี เพื่อไม่ให้เป็นภาระทางการเงินต่อตัวเรานั่นเอง

หลายคนอาจจะยังตั้งคำถามว่าควรจะเริ่มทำประกันชีวิต ประกันสุขภาพ เมื่อไหร่หรือตอนไหนดี โดยการทำประกันสามารถเริ่มทำได้ตั้งแต่อายุยังน้อย เนื่องจากจะสามารถชำระค่าเบี้ยได้ถูก อีกทั้งยังมีแบบประกันที่หลากหลายรูปแบบให้เลือกตามต้องการและความเหมาะสม