โครงการสมาร์ท ซิลเวอร์ และ โครงการสมาร์ท ซิลเวอร์ พลัส

โครงการสมาร์ท ซิลเวอร์ และ โครงการสมาร์ท ซิลเวอร์ พลัส

โครงการสมาร์ท ซิลเวอร์ และ โครงการสมาร์ท ซิลเวอร์ พลัส เลือกคุ้มครองโรคที่กังวลได้ ไม่ว่าจะเป็นโรคอัลไซเมอร์ และโรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน ทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง หรือกระดูกแตกหัก เลือกรับผลประโยชน์เป็นเงินก้อน หรือรายเดือนได้ สมัครได้ตั้งแต่อายุ 40 – 80 ปี ดูแลยาวถึงอายุ 81 ปี เพราะปัญหาสุขภาพและอุบัติเหตุที่พบในผู้สูงอายุเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจและไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะโรคหลอดเลือดสมอง และโรคอัลไซเมอร์ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงอุบัติเหตุไม่คาดคิด ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้สูงอายุไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ หรือเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนที่ทำให้เสียชีวิตได้ วางแผนเพื่อคนที่รักตั้งแต่วันนี้

โครงการสมาร์ท ซิลเวอร์ และ โครงการสมาร์ท ซิลเวอร์ พลัส

ช่วงอายุผู้ขอเอาประกันภัย
– อายุ 40 – 80 ปี

ระยะเวลาคุ้มครอง
– ดูแลถึงอายุ 81 ปี

สิทธิลดหย่อนภาษี
– ลดหย่อนภาษีได้ สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท

จุดเด่น โครงการสมาร์ท ซิลเวอร์ และ โครงการสมาร์ท ซิลเวอร์ พลัส
– เลือกความคุ้มครองเองได้
– เลือกรับเงินก้อน หรือรายเดือน
– เลือกจ่ายรายเดือน เข้า Nursing Home

หมายเหตุ

  • โครงการสมาร์ท ซิลเวอร์ เป็นชื่อทางการตลาดของสัญญาเพิ่มเติมสมาร์ท แคร์ และโครงการสมาร์ท ซิลเวอร์ พลัส เป็นชื่อทางการตลาดของสัญญาเพิ่มเติมสมาร์ท แคร์ พลัส
  • ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันภัยที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
  • เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด
  • การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัท
  • โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
คำถามที่พบบ่อย

Q: อายุรับประกัน และระยะเวลาคุ้มครองถึงอายุเท่าไหร่
A: สามารถรับประกันภัยตั้งแต่ อายุ 40 ปี – 80 ปี และให้ความคุ้มครองถึงอายุ 81 ปี ทั้งนี้ต้องไม่เกิน
ระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันภัยที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้ายอยู่

 

Q: โครงการสมาร์ท ซิลเวอร์ และโครงการสมาร์ท ซิลเวอร์ พลัส ให้ความคุ้มครองอะไรบ้าง
A: โครงการสมาร์ท ซิลเวอร์ และโครงการสมาร์ท ซิลเวอร์ พลัส มี 3 ความคุ้มครองให้เลือก คือ

  • โรคสมองเสื่อมชนิดอัลไซเมอร์ และโรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน
  • ทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง
  • กระดูกแตกหัก

โดยผู้เอาประกันภัยสามารถเลือกรับความคุ้มครองใดความคุ้มครองหนึ่ง หรือจะเลือกรับความคุ้มครองทั้งหมดได้ตามความต้องการของผู้เอาประกันภัย โดยเบี้ยประกันภัยจะคิดตามความคุ้มครองที่ผู้เอาประกันภัยเลือกรับความคุ้มครอง

 

Q: โครงการสมาร์ท ซิลเวอร์ และโครงการสมาร์ท ซิลเวอร์ พลัส แตกต่างกันอย่างไร
A: โครงการสมาร์ท ซิลเวอร์ และโครงการสมาร์ท ซิลเวอร์ พลัส แตกต่างกันในเรื่องการจ่ายผลประโยชน์ สำหรับความคุ้มครองโรคสมองเสื่อมชนิดอัลไซเมอร์ และโรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน และความคุ้มครองทุพพลภาพถาวร
สิ้นเชิง หากผู้เอาประกันภัยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคดังกล่าว โดย

  • โครงการสมาร์ท ซิลเวอร์ จะจ่ายผลประโยชน์เป็นเงินก้อน
  • โครงการสมาร์ท ซิลเวอร์ พลัส จะจ่ายผลประโยชน์เป็นรายเดือน เดือนละเท่าๆ กัน สูงสุด 120 เดือน ตราบเท่าที่ผู้เอาประกันภัยยังมีชีวิตอยู่ หากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตในช่วงรับเงินผลประโยชน์ ผู้รับประโยชน์จะได้รับผลประโยชน์เท่ากับ จำนวนเงินเอาประกันภัย หักด้วยเงินผลประโยชน์รายงวดที่ผู้เอาประกันภัยได้รับไปแล้ว

สำหรับความคุ้มครองกระดูกแตกหัก ของโครงการสมาร์ท ซิลเวอร์ และโครงการสมาร์ท ซิลเวอร์ พลัส จะมีรูปแบบการจ่ายผลประโยชน์เหมือนกัน

 

Q : ซื้อแล้วคุ้มครองเลยไหม
A : สำหรับความคุ้มครองโรคสมองเสื่อมชนิดอัลไซเมอร์ และโรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน และความคุ้มครองทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง จะมีระยะเวลาที่ยังไม่เริ่มคุ้มครอง เพื่อป้องกันผู้ทำประกันที่รู้ว่าตัวเองว่าเจ็บป่วยด้วยโรค
ดังกล่าวอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นจึงมีเงื่อนไขที่ประกันจะเริ่มคุ้มครองภายหลังจากวันทำสัญญานับไปอีก 90 วัน แต่สำหรับความคุ้มครองกระดูกแตกหัก บริษัทฯ จะให้ความคุ้มครองทันทีนับจากวันที่กรมธรรม์เริ่มมีผลคุ้มครอง

 

Q: มีโอกาสที่ค่าเบี้ยประกันของโครงการสมาร์ท ซิลเวอร์ และโครงการสมาร์ท ซิลเวอร์ พลัส จะปรับขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้นหรือไม่?
A: เบี้ยประกันของโครงการสมาร์ท ซิลเวอร์ และโครงการสมาร์ท ซิลเวอร์ พลัส จะปรับตามอายุของผู้เอาประกันภัย

 

Q: ค่าเบี้ยประกันของโครงการสมาร์ท ซิลเวอร์ และโครงการสมาร์ท ซิลเวอร์ พลัส สามารถลดหย่อนภาษีได้หรือไม่?
A: ค่าเบี้ยประกันของโครงการสมาร์ท ซิลเวอร์ และโครงการสมาร์ท ซิลเวอร์ พลัส สามารถนำไปใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด

 

Q: สัญญาเพิ่มเติม โครงการสมาร์ท ซิลเวอร์ และโครงการสมาร์ท ซิลเวอร์ พลัส จำเป็นต้องซื้อพร้อมประกันชีวิตที่เป็นสัญญาหลักหรือไม่?
A: สัญญาเพิ่มเติม โครงการสมาร์ท ซิลเวอร์ และโครงการสมาร์ท ซิลเวอร์ พลัส เป็นสัญญาเพิ่มเติมที่ ต้องซื้อพร้อมประกันชีวิตที่เป็นสัญญาหลัก

กรณีที่ไม่อยู่ในความคุ้มครอง และ ข้อยกเว้นความคุ้มครอง

สำหรับข้อตกลงคุ้มครองโรคสมองเสื่อมชนิดอัลไซเมอร์ และโรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน
ข้อยกเว้นความคุ้มครองตามสัญญาเพิ่มเติมมีทั้งหมด 6 ข้อ เช่น

ไม่คุ้มครองการป่วยด้วยโรคสมองเสื่อมชนิดอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s disease) และโรคหลอดเลือดสมองแตกหรือ อุดตัน (Major Stroke) ซึ่งเกิดขึ้นโดยทางตรงหรือทางอ้อม ทั้งหมดหรือแต่บางส่วน อันเนื่องมาจากสาเหตุดังต่อไปนี้

  1. ความผิดปกติซึ่งแพทย์ยืนยันและมีหลักฐานชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกับโรคร้ายแรงหรือโรคร้ายแรงที่เกิดขึ้นก่อน วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามสัญญาเพิ่มเติมนี้ หรือก่อนวันที่ให้มีการต่ออายุสัญญาเมื่อสัญญาเพิ่มเติมสิ้นผลบังคับ (Reinstatement) หรือก่อนวันที่บริษัทอนุมัติให้เพิ่มจำนวนเงินเอาประกันภัยของสัญญาเพิ่มเติมนี้ แล้วแต่วันใดจะเกิดขึ้นภายหลัง ทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัทอนุมัติให้เพิ่มจำนวนเงินเอาประกันภัย บริษัทจะไม่คุ้มครองเฉพาะในส่วนของจำนวนเงินเอาประกันภัยที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น เว้นแต่ ผู้เอาประกันภัยได้แถลงให้บริษัททราบและบริษัทยินยอมรับความเสี่ยงภัย โดยไม่มีเงื่อนไขยกเว้นความคุ้มครองดังกล่าว
  2. การฆ่าตัวตาย หรือการทำร้ายร่างกายตนเอง หรือพยายามกระทำเช่นว่านั้น
  3. สูดดม กิน ดื่ม ฉีด หรือนำสารมีพิษเข้าร่างกายไม่ว่าด้วยวิธีใด ในขณะที่รู้สึกผิดชอบ หรือวิกลจริต หรือไม่ก็ตาม
  4. ผู้เอาประกันภัยปฏิเสธไม่ยอมรับการรักษา แนะนำ หรือ ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
  5. การตรวจรักษาพยาบาลที่ผู้เอาประกันภัย ซึ่งเป็นแพทย์สั่งให้แก่ตัวเอง รวมทั้งการตรวจรักษาพยาบาลจากแพทย์ผู้ซึ่งเป็น บิดา มารดา คู่สมรส หรือบุตรของผู้เอาประกันภัย เป็นต้น

 

สำหรับข้อตกลงคุ้มครองทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง
ข้อยกเว้นความคุ้มครองตามสัญญาเพิ่มเติมมีทั้งหมด 9 ข้อ เช่น

ไม่คุ้มครองกรณีตกเป็นบุคคลทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงซึ่งเกิดขึ้นโดยทางตรงหรือทางอ้อม ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนอันเนื่องมาจากสาเหตุดังต่อไปนี้

  1. การฆ่าตัวตาย พยายามฆ่าตัวตาย หรือการทำร้ายร่างกายตนเอง
  2. การบาดเจ็บขณะที่ผู้เอาประกันภัยก่ออาชญากรรมที่มีความผิดสถานหนัก หรือขณะถูกจับกุม หรือหลบหนีการจับกุม
  3. สงคราม ไม่ว่าจะประกาศหรือไม่ก็ตาม การรุกราน หรือการกระทำของศัตรูต่างชาติ สงครามกลางเมือง การปฏิวัติ
    การกบฏ การจลาจล การก่อการร้าย
  4. การบาดเจ็บขณะที่ผู้เอาประกันภัยกำลังขึ้นหรือกำลังลง หรือโดยสารอยู่ในอากาศยานที่มิได้จดทะเบียนเพื่อบรรทุกผู้โดยสาร และมิได้ประกอบการโดยสายการบินพาณิชย์
  5. ความบกพร่องทางร่างกาย การป่วย หรือบาดเจ็บ ที่ผู้เอาประกันภัยทราบอยู่แล้วในขณะที่ทำสัญญาประกันภัย แต่มิได้แจ้งให้บริษัททราบ เป็นต้น


สำหรับข้อตกลงคุ้มครองกระดูกแตกหัก
ข้อยกเว้นความคุ้มครองตามสัญญาเพิ่มเติมมีทั้งหมด 24 ข้อ เช่น

ไม่คุ้มครองความสูญเสียหรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากหรือสืบเนื่องจากสาเหตุดังต่อไปนี้

  1. โรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) หรือกระดูกหักจากพยาธิสภาพ (Pathological fracture)
  2. สภาพการบาดเจ็บ หรือการป่วยที่เป็นมาก่อนการเอาประกันภัย
  3. การแตกหักซึ่งเป็นผลมาจากกระดูกที่มีพยาธิสภาพหรือเป็นผลมาจากโรคที่เป็นมาโดยกำเนิด
  4. การบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจากการกระทำของผู้เอาประกันภัย ขณะอยู่ภายใต้ฤทธิ์สารเสพติด หรือยาเสพติดให้โทษจนไม่สามารถครองสติได้ หรือขณะอยู่ภายใต้ฤทธิ์สุรา โดยมีระดับแอลกอฮอล์ในร่างกายขณะตรวจ เทียบเท่ากับระดับแอลกอฮอล์ในเลือดตั้งแต่ 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป หรือ ขณะอยู่ภายใต้ฤทธิ์สุราจนไม่สามารถครองสติได้  ในกรณีที่ไม่มีการตรวจวัดหรือในกรณีที่ไม่สามารถตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ได้
  5. การฆ่าตัวตาย พยายามฆ่าตัวตาย หรือการทำร้ายร่างกายตนเอง เป็นต้น
การปรับเบี้ย

บริษัทอาจปรับเบี้ยประกันภัย ณ วันครบรอบปีกรมธรรม์ประกันภัย อันเนื่องมาจากปัจจัยต่างๆ ดังต่อไปนี้

1) อายุ และชั้นอาชีพ ของแต่ละบุคคล
2) ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่สูงขึ้น หรือจากประสบการณ์การจ่ายค่าสินไหมทดแทนโดยรวมของพอร์ตโฟลิโอ (Portfolio) ของสัญญาเพิ่มเติมนี้ โดยบริษัทจะแจ้งให้ผู้เอาประกันภัยทราบล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรทางไปรษณีย์ลงทะเบียน
หรือวิธีการอื่นที่ผู้เอาประกันภัยให้ความยินยอมไม่น้อยกว่า 30 วัน
ทั้งนี้เบี้ยประกันภัยที่มีการปรับจะต้องอยู่ในอัตราที่ได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียนไว้แล้ว

การเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นภายในระยะเวลาที่ไม่คุ้มครอง

สำหรับข้อตกลงคุ้มครองโรคสมองเสื่อมชนิดอัลไซเมอร์ และโรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน

สัญญาเพิ่มเติมนี้จะไม่คุ้มครองการป่วยด้วยโรคสมองเสื่อมชนิดอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s disease)
และโรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน (Major Stroke) หรือความผิดปกติซึ่งแพทย์ยืนยันและมีหลักฐานชัดเจนว่า เกี่ยวข้องกับโรคสมองเสื่อมชนิดอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s disease) และโรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน (Major Stroke) ที่เกิดขึ้นภายใน 90 วัน (Waiting Period)
นับแต่วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามสัญญาเพิ่มเติมนี้ หรือ หากมีการต่ออายุสัญญาเมื่อสัญญาเพิ่มเติมสิ้นผลบังคับ (Reinstatement) ให้นับแต่วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามการต่ออายุครั้งสุดท้าย หรือวันที่บริษัทอนุมัติให้เพิ่มจำนวนเงินเอาประกันภัยของสัญญาเพิ่มเติมนี้ แล้วแต่วันใดจะเกิดขึ้นภายหลัง ทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัทอนุมัติให้เพิ่มจำนวนเงินเอาประกันภัย บริษัทจะไม่คุ้มครองเฉพาะในส่วนของจำนวนเงินเอาประกันภัยที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น

สำหรับข้อตกลงคุ้มครองทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง

สัญญาเพิ่มเติมนี้จะไม่คุ้มครองการตกเป็นบุคคลทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงซึ่งแพทย์ยืนยันและมีหลักฐานชัดเจนว่า เกิดขึ้นภายใน 90 วัน
(Waiting Period) นับแต่วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามสัญญาเพิ่มเติมนี้ หรือหากมีการต่ออายุสัญญา เมื่อสัญญาเพิ่มเติมสิ้นผลบังคับ (Reinstatement) ให้นับแต่วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามการต่ออายุครั้งสุดท้าย หรือวันที่บริษัทอนุมัติให้เพิ่มจำนวนเงินเอาประกันภัยของสัญญาเพิ่มเติมนี้ แล้วแต่วันใดจะเกิดขึ้นภายหลัง ทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัทอนุมัติให้เพิ่มจำนวนเงินเอาประกันภัย บริษัทจะไม่คุ้มครองเฉพาะในส่วนของจำนวนเงินเอาประกันภัยที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น

คำเตือน : โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย

Scroll to Top